ขนมจีนน้ำเงี้ยว (Kanom Jeen Nam Ngeaw) : รสมือแม่นาย

ส่วนผสม เครื่องแกง
1. พริกแดงใหญ่แห้ง 200 กรัม
2. รากผักชี 100 กรัม
3. กระเทียม 100 กรัม
4. หอมแดง 100 กรัม
5. กะปิ 5 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ 3 ช้อนชา
7. เต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ เครื่องแกง
1. โขลกรากผักชี และกระเทียมให้ละเอียด
2. ใส่พริก และเกลือ โขลกจนละเอียด (กรณีต้องการให้โขลกง่ายให้แช่พริกในน้ำเปล่าให้เปลือกนิ่มแล้วจึงนำมาโขลก และกรณีที่ไม่ต้องการให้น้ำเงี้ยวมีรสเผ็ดให้เอาเมล็ดพริกออกใช้แต่เปลือก จะช่วยให้รสเผ็ดน้อยลง)
3. ตามด้วยหอมแดง โขลกจนละเอียด
4. จะได้เครื่องแกงให้ใส่กระปิ และเต้าเจี้ยว ผสมจนเครื่องแกงเป็นเนื้อเดียวกัน 

ส่วนผสม น้ำเงี้ยว
1. เครื่องแกงน้ำเงี้ยว 1/2 กิโลกรัม
2. กระดูกอ่อนหมู 1/2 กิโลกรัม
3. หมูสับ 1 กิโลกรัม
4. เลือดไก่ 8 ก้อน
5. มะเขือเทศ 1/2 กิโลกรัม
6. น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ น้ำเงี้ยว
1. ต้มน้ำซุปกระดูกอ่อนหมู โดยนำกระดูกอ่อนหมูแบ่งพอดีคำ นำไปล้างน้ำให้สะอาด และล้างรากผักชีให้สะอาด มัดรวมกันทุบพอรากแตก ใส่กระดูกหมู รากผักชี น้ำสะอาดและเกลือเล็กน้อยลงหม้อ เพื่อต้มน้ำซุป

2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอประมาณ นำกระเทียมสับมาเจียวจนกระทั่งหอม และมีสีเหลืองทอง ให้ตักกระเทียมขึ้นพัก สะเด็ดน้ำมัน (ใช้สำหรับเป็นเครื่องเคียง) ให้นำเครื่องแกงลงผัดกับน้ำมันที่เหลือจากการเจียวกระเทียม ผัดจนกระทั่งพริกแกงมีกลิ่นหอมให้เหยาะน้ำปลาเล็กน้อย

3. เมื่อเครื่องแกงผัดหอมได้ที่ให้ใส่หมูสับลงไปผัดกับเครื่องแกง ผัดจนกระทั่งหมูสุก

 4. นำเครื่องแกงที่ผัดกับหมูสับจนกระทั่งสุก เทลงในหม้อซุปกระดูกหมูอ่อนที่ต้มไว้

5. ต้มจนกระทั่งน้ำเดือด ให้เทเลือดหมูที่หั่นลงในหม้อ

6. ตามด้วยมะเขือเทศแบ่งครึ่งลูก คนให้ทั่ว

7. ตั้งไฟต่อประมาณ 5 – 10 นาที จึงยกลง

เครื่องเคียง น้ำเงี้ยว
1. ขนมจีน 2 กิโลกรัม

2. ผักชี ต้นหอม 250 กรัม

3. กระเทียมเจียว 250 กรัม

4. ที่บ้านจะกินกับ “หนังพอง (ภาษาเหนือ เรียก หนังปอง)” หรือจะเป็นแคบหมูก็ได้ค่ะ

5. ผักต่างๆ วันนี้แม่นายมีแค่ ผักกาดดอง ถั่วงอก จะให้ดีต้องมี พริกทอด ผักกระถิน หัวปลีซอย และแคบหมู

1 Star2 Stars3 Stars4 Stars5 Stars (2 votes, average: 2.50 out of 5)
Loading ... Loading ...

13 Comments »

  1. เศก said,

    April 8, 2009 at 5:57 pm

    ขอบคุณมากครับ

    จะลองทำตามดู

    ที่บ้านคุณนุ้ยขเป็นร้านอาหารหรือเปล่า

    ขึ้นเชียงใหม่ จะได้แวะไปทานครับ

  2. ดา/อ.ต said,

    November 22, 2009 at 3:10 pm

    ขอบคุณมากค่ะสำหรับวีธีทำจะลองทำวันนี้นะคะ
    อยากทำเองบ้าง

  3. ปริญญากร ปัญญา said,

    January 5, 2010 at 9:39 am

    อยากกินมากเลยครับ ว่างขอจำสูตรไปลองทำดูบ้าง ขอบคุณเว็บนี้มากๆ เลยนะครับ ถ้ามีเวลากรุณาช่วยเอาสูตรลาบไก่ ของภาคเหนือมาลงหน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

  4. จัน said,

    May 2, 2010 at 11:44 pm

    นั้นซิ..บ้านคุณนุ้ยเป็นร้านอาหารรึเปล่า..ถ้าไปเชียงใหม่จะได้ไปชิม

  5. บดินทร์ บรรเลงกลอง said,

    May 22, 2010 at 9:36 pm

    แล้วสูตรที่ใส่ดอกเงี้ยว คือก็แค่ใส่ดอกเงี้ยวเพิ่มไปเฉยๆเลยใช่ไหมครับคุณ

  6. noo aum said,

    February 4, 2011 at 2:01 pm

    น่ากินมากเลย หิวข้าวแล้วค่ะ

  7. สุกัญญา สมสล่าง said,

    September 13, 2011 at 5:47 pm

    น่ากินมาก จะลองทำดูขอบคุณมากค่ะ เพราะว่าอยู่เมืองนอกหากินไม่ได้เลย ได้ไปซื้อพริกแกงน้ำเงี้ยวสำเร็จรูปมาคุณคิดว่าน่าจะทำได้เหมือนกันไหม ช่วยบอกที เพราะว่าเป็นคนอุดรแต่อยากกินอาหารเหนือ

  8. เดือน said,

    October 1, 2011 at 2:25 pm

    น่ากินจังเลย อ่ะอยากกิน

  9. พลอย said,

    October 1, 2011 at 2:27 pm

    ขอคุณนะค่ะดิฉันจะลองทำดู

  10. พิมพาวรรณ โนกุชิ said,

    January 28, 2012 at 4:50 pm

    ขอบคุณค่ะありがとうございました。

  11. Surat C said,

    February 15, 2012 at 1:24 pm

    เป็นอาหารโปรดที่สุดจานหนึ่ง แตมีใครทราบไหมว่ามันมีกี่แคลอรี่… ช่วยบอกด้วย

  12. admin said,

    March 11, 2012 at 7:58 pm

    243 แคลอรี่/ 1 จาน ค่ะ ที่มาค่ะ http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=4199

  13. panpan said,

    April 5, 2012 at 10:24 am

    สุดยอดค่ะ…..น่าทานมากๆ
    พอดีกำลังมาหาสูตรจะเอาไปทำเลี้ยงช่างไม้ที่บ้าน
    สูตรนี้คงพอดีสำหรับคน ๖-๗ คนนะคะ

    ขอบคุณค่ะ

RSS feed for comments on this post · TrackBack URL

Leave a Comment